ตอนที่ 0033 ร่วมทางกับหมาป่า



คลังเก็บของอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพร  ราวกับมุมหนึ่งของโลกที่ไร้ผู้คนเหลียวแล


เฉินจี้ครุ่นคิดเงียบงัน  ตำแหน่งของสือเฉาแห่งกรมข่าวกรอง  มีความเกี่ยวข้องกับความลับระดับสูง  ลุงของตนสามารถสั่งให้สือเฉามาดูแลตน  ย่อมต้องเป็นบุคคลสำคัญในสายข่าวกรองเช่นกัน


แต่เหตุใดมารดาของตนจึงแต่งเข้าตระกูลเฉินแห่งราชวงศ์หนิง  ตนเองเหตุใดจึงยังคงอยู่ในราชวงศ์หนิง


สือเฉาเห็นเขานิ่งเงียบไม่พูดจา  ดูเหมือนจะเข้าใจผิด  “เจ้ายังโกรธแค้นลุงตัวเองอยู่สินะ”


เฉินจี้หลุบตาต่ำ  ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่านไม่ออก  “ท่านลุงยังจำข้าได้อีกหรือ”


สือเฉาปัดฝุ่นบนตัว  พูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  “อย่าพูดจาแล้งน้ำใจนักเลย  ปีนั้นเขาอยู่ในตำแหน่งนั้น  ย่อมต้องพิจารณาปัญหาทั้งหมด  ที่ไม่รับเจ้ากลับราชวงศ์จิ่ง  ย่อมมีเหตุผลของการไม่รับเจ้ากลับ  บางทีหากรับเจ้ากลับไป  เจ้ากลับอาจถูกคนชั่วทำร้าย”


“เป็นเช่นนั้น?  สถานการณ์ของลุงข้าไม่ดีนักหรือ”


หลังจากเจ้าของหอไป๋ลู่จากไป  สือเฉาดูเหมือนจะพูดมากขึ้น


เขายังคงเล่าอย่างสงบ  “บัดนี้ลุงของเจ้าถูกคนชั่วใส่ร้าย  ถูกลดตำแหน่งออกจากราชการแล้ว”


ที่แท้ลุงของตนออกจากราชการแล้ว


เฉินจี้ถามต่อไป  “ถ้าเช่นนั้น  ข้าจะกลับราชวงศ์จิ่งได้เมื่อใด”


เขาไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทั้งราชวงศ์จิ่งและราชวงศ์หนิง  แต่ไม่ว่าจะไปที่ใด  ก็ย่อมดีกว่าเดินบนเส้นลวดอยู่ที่นี่


ทว่าสือเฉากลับพูดอย่างเฉียบขาด  “เจ้ายังกลับไม่ได้  ในเมื่อใกล้ชิดกับหยุนหยางและเจียวถู่แล้ว  ย่อมต้องใช้ประโยชน์จากสถานะนี้ให้คุ้มค่าเสียก่อน”


น้ำเสียงของสือเฉาไม่อาจโต้แย้งได้


เฉินจี้นิ่งเงียบอยู่นาน  “ถ้าเช่นนั้น  ข้าจะรอรับคำสั่งจากท่านสือเฉา  จะพยายามซื้อใจหยุนหยางและเจียวถู่ให้มากที่สุด”


ทันใดนั้น  สือเฉาก็หันเปลี่ยนประเด็น  “เดี๋ยวนะ...สายข่าวของเจ้าใช้วิธีส่งข้อมูลด้วยการเขียนผิดของโจวเฉิงอี้  กรมข่าวกรองไม่เคยสอนวิธีฝ่านเซี่ยให้พวกเจ้า  เจ้าเรียนวิธีฝ่านเซี่ยมาจากไหน  และเหตุใดจึงค้นพบ  ‘บันทึกใคร่ครวญใกล้ตัว’ ?”


เฉินจี้ไม่รู้จะตอบอย่างไรในทันที


เขาไม่อาจอธิบายกับคนในโลกนี้ได้ว่า  เขาอยากเป็นนายทหารการทูตมาตั้งแต่เด็ก  จึงอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ประยุกต์  ข่าวกรอง  และนิยายสืบสวนมาสารพัด


เขาไม่อาจอธิบายกับคนในโลกนี้ได้ว่า  เมื่อเจ็ดเดือนก่อน  ตนเคยสอบเข้าวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกองทัพบก  ด้วยคะแนนข้อเขียนและสัมภาษณ์อันดับหนึ่ง


และสถาบันที่กำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น  ‘มหาวิทยาลัยวิศวกรรมสารสนเทศสนับสนุนยุทธศาสตร์กองทัพบก’  นั้น  ไม่ได้สอนแต่ภาษาต่างประเทศ  การสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์รอบพิเศษก็ไม่ได้ทดสอบภาษาต่างประเทศ


สือเฉาหรี่ตาเล็กน้อยพลางเอ่ยถาม  “เหตุใดไม่พูด  ใครสอนเจ้า?”


ขณะพูด  แรงกดดันที่มองไม่เห็นก็เข้ามาประชิดทันที  เฉินจี้เห็นชัดว่าอีกฝ่ายยื่นมือไปคลำมีดสั้นในแขนเสื้ออีกครั้ง


เขารีบชั่งใจข้อมูล  แล้วขยับปากตอบว่า  “แม่ของข้าเป็นคนสอน”


“โอ้”  น้ำเสียงของสือเฉายังไม่ผ่อนคลาย  “นึกไม่ถึงว่าแม่ของเจ้าจะสอนสิ่งเหล่านี้ให้ตั้งแต่ยังเล็ก……นางยังสอนอะไรเจ้าอีก?  คงไม่ได้สอนแค่วิธีฝ่านเซี่ยกระมัง  นั่นมันบังเอิญเกินไปหน่อย”


เฉินจี้  ‘ระลึก’  ขึ้นมา  “แม่ข้ายังสอนอีกว่า  หากใช้แค่วิธีฝ่านเซี่ยซ่อนข้อมูล  เมื่อพบคนที่รู้วิธีฝ่านเซี่ยเช่นกัน  ย่อมเปิดโปงได้ง่าย  ดังนั้น  นางจึงสร้างวิธีใหม่ขึ้นมาบนพื้นฐานของวิธีฝ่านเซี่ย  เพื่อซ่อนข่าวลับโดยเฉพาะ”


“อ้อ?”  สือเฉาสนใจขึ้นมา  “วิธีอะไร”


เฉินจี้ตอบ  “แม่ข้าเรียกมันว่าสมุดรหัส”


“สมุดรหัส?”


เฉินจี้หาไหเหล้าในคลังมาไหหนึ่ง  ใช้นิ้วจุ่มเหล้าเขียนบนพื้น  ‘ริมทางหลิวเงียบงัน รอคลื่นลมสงบ คลื่นยังคงแย่งแสงตะวัน แต่เมื่อเสียงนกเริ่มเจื้อยแจ้ว ความยินดีค่อยเผยออกมา ตบมือยิ้มบอกท่านให้รู้ ว่าเคราะห์ร้ายสิ้นสุดแล้ว’


สือเฉาเอ่ยเสียงเข้ม  “บทกวีนี้มีประโยชน์อันใด”


เฉินจี้ไม่ตอบ  เขียนต่อไปเอง  “ดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิหอมกำจาย  ภูเขายามใบไม้ร่วงงดงามนัก  แขกผู้ทรงเกียรติล้วนยกจอกทองฉลองขับขาน  ตะเกียงเดียวดายส่องแสงในโถเงิน  เดินผ่านชานเมืองตะวันออก ข้ามสะพานตะวันตก  เสียงไก่เร่งปลุกให้เช้าตรู่มาเยือน  กิ่งบ๊วยแปลกตาโน้มบังร่องน้ำสายเล็ก”


เฉินจี้อธิบาย  “บทแรกรวมยี่สิบตัว  พยัญชนะต้นของแต่ละตัวไม่ซ้ำกัน  บทที่สองรวมสามสิบหกตัว  สระของแต่ละตัวก็ไม่ซ้ำกัน  ใช้สองบทนี้เป็นสมุดรหัส  เรียงลำดับตัวเลขตามลำดับได้เลย  ยี่สิบตัวของบทแรกคือหนึ่งถึงยี่สิบ  บทที่สองก็เช่นกัน  เรียงหนึ่งถึงสามสิบหก”


สือเฉางงไม่เบา “ใช้อย่างไร”


เฉินจี้อธิบาย  “มีสมุดรหัสนี้แล้ว  หากท่านต้องการส่งคำว่า  ‘จี๋สวี’  สองตัว  เพียงเขียนว่าสิบเก้า  ยี่สิบเจ็ด,  สิบห้า  สิบเอ็ดก็พอ  คนที่รู้สมุดรหัส  เห็นตัวเลขก็แปลข้อมูลได้ทันที  แต่คนที่ไม่รู้สมุดรหัส  ตายเป็นผีก็ถอดรหัสไม่ได้  สมมติว่า  ‘บันทึกใคร่ครวญใกล้ตัว’  ใช้วิธีนี้ส่งข่าว  แม้ฝ่ายตรงข้ามดักจับ  ‘บันทึกใคร่ครวญใกล้ตัว’  ได้ก็อ่านไม่ออกเช่นกัน”


สือเฉาชื่นชม  “น่าสนใจทีเดียว”


เทคนิคการเข้ารหัสหลายชั้นอย่างสมุดรหัสนี้  มีมาแต่โบราณ  จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสองจึงได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่


มันไม่ใช่ยาวิเศษ  แต่งานข่าวกรองมักเป็นเช่นนี้  เพียงนำหน้าศัตรูหนึ่งก้าวก็ชนะขาดลอยแล้ว


ถึงตรงนี้  สือเฉาจึงผ่อนน้ำเสียงลง  เลือกที่จะเชื่อเฉินจี้  “แม่เจ้าสอนดี  เจ้าก็เรียนดี  ครั้งแรกที่แม่เจ้ามาแฝงตัวในราชวงศ์หนิง  ใช้เวลาแค่สามปีก็กลายเป็นกวีหญิงชื่อดังแห่งจินหลิง  คิดไม่ถึงว่านางไม่เพียงเชี่ยวชาญด้านฉินฉีซูฮวา*  ยังลงลึกศึกษาวิธีใช้ฝ่านเซี่ยด้วย  เรื่องสมุดรหัสกับ  ‘บันทึกใคร่ครวญใกล้ตัว’  นี้  ข้าจะรายงานท่านหัวหน้ากรมเพื่อขอบำเหน็จให้เจ้า  เจ้าตอนนี้เป็นสายลับระดับ  ‘เชวี่ย’ (นกกระจอก) ใช่ไหม?  ความดีความชอบนี้พอให้เจ้าเลื่อนขึ้นเป็นระดับ  ‘จื้อ’ (ไก่ฟ้า)  ได้แล้ว”


(ฉินฉีซูฮวา — ศาสตร์ 4 แขนง ประกอบด้วย  ดนตรี  หมากกระดาน  วรรณกรรม  ศิลปะ)


เฉินจี้ถอนหายใจโล่งอกเงียบงัน  เขาเลือกเดิมพันถูก


ตามการคาดเดา  แม่และลุงของตนล้วนเป็นคนราชวงศ์จิ่ง  แต่น่าแปลก  แม่กลับแต่งเข้าตระกูลเฉินแห่งราชวงศ์หนิง  เหตุผลเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้คือ  แม่ของตนก็เป็นสายลับเช่นกัน!


ปีนั้นแม่กับลุงมาราชวงศ์หนิงด้วยกัน  ลุงสร้างเครือข่ายข่าวกรองในแดนใต้ด้วยมือเดียว  ส่วนแม่ของตนเพื่อให้ได้ข่าว  จึงแต่งเข้าจวนเฉิน


เฉินจี้เบี่ยงประเด็น  “ท่านสือเฉา  ภารกิจหลักของข้าต่อจากนี้คือ  เข้าใกล้หยุนหยางและเจียวถู่  ท่านช่วยเล่าเรื่องพวกเขาอย่างละเอียดได้หรือไม่”


สือเฉาพยักหน้า  “การอยู่กับหยุนหยางและเจียวถู่  ไม่ว่าพวกนั้นจะพูดอะไรก็ห้ามเชื่อ  คนทั้งสองเลื่อนตำแหน่งได้ด้วยการเหยียบศพเพื่อนร่วมงาน  วันนี้พวกเขาใช้เจ้า  พรุ่งนี้อาจทิ้งเจ้า”


เฉินจี้สงสัย  “พวกเขาทำเช่นนี้  ไม่กลัวเพื่อนร่วมงานโกรธแค้นบ้างหรือ”


“ไม่หรอก  กรมสืบลับดูแค่ความดีความชอบ  ไม่ดูน้ำใจ  พวกเขาโหดกับพวกเดียวกัน  กับพวกเรายิ่งโหดกว่า”  สือเฉาคิดอยู่ครู่แล้วกำชับ  “แน่นอน  ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขากับเสนาบดีพิษ  เพื่อนร่วมงานคนอื่นอาจกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด”


“หืม?”


“หยุนหยางกับเจียวถู่ต่างเป็นเด็กกำพร้าที่เสนาบดีพิษรับเลี้ยง  ฝึกฝนมากว่าสิบปีจนเป็นมือสังหารอย่างทุกวันนี้  ความสามารถอาจไม่เท่าคนอื่น  แต่ฆ่าคนให้เสนาบดีพิษนั้นไม่ลังเลเลย”


เฉินจี้พลันนึกขึ้นมาได้ว่า  คืนที่โจวเฉิงอี้ตาย  หยุนหยางกับเจียวถู่ต่างสาบานด้วยชีวิตพ่อแม่ของตน...


กำลังพูดกันอยู่  เจ้าของร้านหยวนก็ผลักประตูเข้ามา  “ท่านสือเฉา  จัดการเรียบร้อยแล้ว  คืนนี้ฉางจิงจะอยู่ที่...”


สือเฉาเอ่ยเสียงเย็น  “ตบปาก”


เจ้าของร้านหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง  สุดท้ายก็กัดฟันตบหน้าตัวเองสิบที


เสียงทุ้มต่ำของสือเฉาดังมาจากหลังหน้ากาก  “สายข่าวแต่ละสายห้ามบอกข้อมูลข้ามสาย  หลักการแค่นี้ยังลืม  ยังคิดจะสืบตำแหน่งไห่ตงชิง (เหยี่ยวทะเล) ประจำเมืองหลัวแทนโจวเฉิงอี้อีกหรือ”


เจ้าของร้านหยวนก้มหน้า  “ข้าคิดน้อยไป”


ทันใดนั้น  เฉินจี้พูดขึ้นจากด้านข้าง  “ท่านสือเฉา  ข้าจะพยายามเข้าใกล้หยุนหยางและเจียวถู่ต่อไป  แต่มีข้อเรียกร้องหนึ่งอย่าง”


“ว่ามา”


เฉินจี้จ้องเจ้าของร้านหยวนแล้วพูด  “ข้าต้องการให้กรมข่าวกรองเรียกทุกคนที่รู้ว่าข้าเป็นสายลับ  กลับไปยังราชวงศ์จิ่ง  และห้ามกลับมาราชวงศ์หนิงอีกตลอดกาล  ไม่เช่นนั้น  ข้าลำบากลำบนเข้าใกล้สิบสองนักษัตรได้  หากมีคนอื่นถูกจับแล้วสารภาพเรื่องข้า  นั่นจะสูญเปล่าทันที”


สือเฉาครุ่นคิด


เจ้าของร้านหยวนหน้าเปลี่ยนสี  “ท่านสือเฉา  เขากำลังแก้แค้นส่วนตัว!”


เฉินจี้ส่ายหน้า  “ไม่ใช่แก้แค้นส่วนตัว  ท่านรู้ตัวตนข้าแล้ว  หากท่านถูกจับ  ย่อมสารภาพเรื่องข้าแน่”


“ใครจะไปทำแบบนั้น!”  เจ้าของร้านหยวนร้อนใจ  “ท่านสือเฉา  ข้าดูแลเมืองหลัวมาหกปีแล้ว  ไม่มีใครเหมาะกว่าข้าอีกแล้ว”


สือเฉาครุ่นคิดครู่หนึ่ง  เดินตรงไปยังหีบใส่ยาหนึ่งใบ


เขาดึงหีบออก  หยิบกระดาษน้ำมันที่ใช้เก็บรักษาสมุนไพรออกมาแผ่นหนึ่ง  ปูลงบนพื้นอย่างสงบ


เจ้าของร้านหยวนเห็นดังนั้น  หันตัวกลับหลังทันที  เตรียมจะหนีออกจากคลัง


แต่เขาเพิ่งหันกาย  สือเฉาก็ย้ายมาอยู่ข้างหลังแล้ว  ใช้มือข้างเดียวยกร่างอ้วนท้วมขึ้นมา  หิ้วไปวางบนกระดาษน้ำมันแผ่นนั้น


อึดใจต่อมา  สือเฉาเตะใส่หลังเข่าเจ้าของร้านหยวน  บังคับให้อีกฝ่ายคุกเข่าลง


เขาชักมีดสั้นจากแขนเสื้อ  มองไปยังเฉินจี้  “วันนี้ที่ต้องไต่สวนเจ้าก็เพราะจำเป็น  อย่าฝังใจ  หากเรื่องวันนี้กลายเป็นหนามในใจเจ้า  ข้าจะถอนให้เดี๋ยวนี้  ในภายภาคหน้า  เจ้าตั้งใจเข้าใกล้หยุนหยางกับเจียวถู่ก็พอ  นอกจากข้ากับท่านหัวหน้ากรม  และลุงของเจ้า  จะไม่มีใครรู้ตัวตนสายลับของเจ้าอีก”


ขณะพูด  สือเฉาบีบคางเจ้าของร้านหยวน  แทงมีดเข้าหัวใจอีกฝ่ายทันที  “หยวนหมิง  อาศัยตำแหน่งหน้าที่  หกปียักยอกเงินหอไป๋ลู่ไป 8,327 ตำลึงเงิน  หอไป๋ลู่นี้ตั้งขึ้นเพื่อหาทุนให้กรมข่าวกรอง  กลับกลายเป็นที่อิ่มท้องเจ้า  เจ้าไม่จงรักภักดีแล้ว”


เจ้าของร้านหยวนหอบหายใจ  พูดอะไรไม่ออกสักคำ


สือเฉาบิดมีดสั้น  บดหัวใจเจ้าของร้านหยวนให้แหลก  พลางเงยหน้ากากหน้าเขียวเขี้ยวงามองเฉินจี้  “หากไม่มีความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์  ก็คือการไม่จงรักภักดีอย่างสมบูรณ์  เฉินจี้  ประโยคนี้มอบให้เจ้าด้วย  จงจำให้ขึ้นใจ”


เฉินจี้มองฉากตรงหน้าเงียบงัน  เขาทราบดีว่า  ต่อจากนี้ตนต้องร่วมทางกับเหล่าหมาป่าเสือดาวแล้ว


(จบตอน)  


______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน: -
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#พระเอกเทพ #นิยายแฟนตาซี #qingshan

Previous Next

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 0001 กลับสู่ศูนย์

ตอนที่ 0007 บุพการี

ตอนที่ 0010 ตำหนักหวั่นซิง